ขอให้บัณฑิต ได้งานดี ๆ มีเงินเดือนเยอะ ๆ โบนัสหลาย ๆ เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยค่ะ

 

 ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่นิยมสมัครงานผ่านอินเตอร์เน็ตกันมาก และมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ เหตุผล คือ ต้นทุนต่ำ สะดวกและรวดเร็ว ในข้อดีดังกล่าวก็ย่อมมีข้อเสียอยู่บ้าง คือ คนที่คิดว่าการสมัครงาน คือการได้สมัครงาน ก็มักจะไม่มีใครเรียกคุณเข้าสัมภาษณ์งาน เพราะว่า ปัญหาของคุณอยู่ที่การเขียน Resume
ทั้งที่ก็รู้ว่า Resume คือ คุณได้เหยียบเท้าเข้าไปสมัครงานอย่างเต็มตัว หากเขียนไม่เป็น ไม่ได้น่าสนใจ ไม่มีจุดขาย สิ่งที่ส่งไปก็คือขยะ ประเภท Spam Mail ดีๆ นี่เอง

Resume คือ อะไร .. ทำไมต้องเขียนResume คือ การย่อเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเรา ..เรียบเรียงลงบนกระดาษ A4 ประมาณ 2-3 แผ่น โดยจัดแบ่งเป็นหัวข้อต่าง ๆ
ที่ง่ายต่อการอ่านและทำความเข้าใจ เพื่อให้บุคคลที่ไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักเรามาก่อน สามารถทำความรู้จักตัวเราในเบื้องต้นได้ภายในเวลาประมาณ 10 นาที
Resume ที่ดี ควรพิมพ์บนกระดาษสีขาว จัดหน้าเป็นระเบียบ และลำดับความสำคัญของเนื้อหาอย่างเรียบร้อย โดยเรียงลำดับความสำคัญตามที่แต่ละบริษัทหรือหน่วยงานได้ระบุไว้ในเงื่อนไขการรับสมัคร (ถ้ามี)

คนส่วนใหญ่ มักจะเขียน Resume เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้ในการสมัครงานหรือศึกษาต่อเท่านั้น จึงขาดความคุ้นเคยและขาดความมั่นใจในการเขียนเพื่อนำเสนอคุณสมบัติของตนเอง
ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถเขียน Resume เก็บไว้ใช้ประโยชน์สำหรับตัวเองในการอ้างอิงข้อมูลต่าง ๆ  เพราะยังมีอีกหลายโอกาสที่เราจะถูกถามถึงประวัติส่วนตัว อาทิเช่น ปีที่จบการศึกษา ปีที่ได้เข้าร่วมสัมมนา เป็นต้น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เราจะสามารถหยิบข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เนื่องจากเราได้รวบรวมข้อมูลของตัวเองและจัดเก็บไว้อย่างเป็นระบบระเบียบ

วิธีการเขียน Resume ในปัจจุบันนี้ ง่ายและสะดวกสบายขึ้นมาก แม้ว่าจะต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษก็ตาม เพราะมีหนังสือ รวมถึงเว็บไซด์จัดหางานที่แนะแนวทางการเขียน Resume อยู่มากมาย
ส่วนใหญ่ก็มักจะมีตัวอย่างให้อ่านได้อย่างเข้าใจง่าย เราเพียงแต่ลอกรูปแบบหรือสไตล์การเขียน จากนั้น..แก้ไขข้อมูลที่แสดงในตัวอย่างให้เป็นข้อมูลของเรา ก็สามารถนำไปใช้ได้แล้วใครที่ไม่เคยเขียน Resume ของตัวเอง อยากแนะนำให้ลองเขียนดู แม้ว่าจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ประโยชน์ใด ๆ ในตอนนี้ก็ตาม เพราะประโยชน์หนึ่งที่จะได้รับอย่างแน่นอน คือ เราสามารถมองภาพความเป็นตัวเราได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Resume ของใครที่เมื่อเขียนแล้ว มีพื้นที่ว่างเปล่าภายใต้หัวข้อ การฝึกอบรม การเข้าร่วมสัมมนา กิจกรรมที่เคยทำ ความสามารถทางด้านคอมพิวเตอร์ ความสามารถทางด้านภาษา เป็นต้น แสดงว่า .. บุคคลนั้นยังมีข้อด้อย มีจุดอ่อน ที่ควรได้รับการปรับปรุง โดยการเรียนรู้หรือฝึกฝนเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ในการทำงาน / ในการดำเนินชีวิตของตนต่อไปในอนาคต

หากเราอ่าน Resume ของเราแล้วมีความพึงพอใจ บุคคลอื่นที่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อนเลย ย่อมมีความพอใจในเบื้องต้น เกิดความรู้สึกอยากทำความรู้จัก จนนำไปสู่การเรียกตัวเพื่อสัมภาษณ์งานและเชื้อเชิญให้ทำงานร่วมกันได้ในที่สุด

ดาวน์โหลด Resume ภาษาอังกฤษ ฟรี
                                                  
ดาวน์โหลด จดหมายสมัครงาน ภาษาอังกฤษ ฟรี 

สำหรับในวันนี้ ทางเวบมหาลัย.คอม  ขอแนะนำบทความดี ๆ ที่มีประโยชน์สำหรับบัณฑิตลองได้ศึกษาดูกัน  

ฉะนั้นจะดีกว่าไหม? ถ้าเราทำประวัติส่วนตัวเก็บไว้บนอินเทอร์เน็ต เมื่อได้พบกับใคร ที่เราได้รู้จัก และหลังจากที่มีการพูดคุยกันอย่างถูกคอ ทันทีที่เขาได้เอ่ยปากขอ "เรซูเม่" หรือ "ประวัติส่วนตัว" ของเรา ก็แค่ส่งเป็น "ลิงก์" ไปให้ทางอี-เมล หรือ SMS ได้อย่างรวดเร็ว!

ฟังแล้วดูเข้าท่าใช่ไหม? และเว็บไซต์ที่จะช่วยให้คุณสร้าง "เรซูเม่ออนไลน์" ได้อย่างรวดเร็ว สวยงาม และฟรี ก็คือ www.gigtide.com นั่นเอง

Gigtide คือ ผู้ช่วยสำหรับสร้างประวัติส่วนตัวออนไลน์ (Online Resume Builder) ที่ให้บริการฟรี และสามารถสร้างเสร็จภายใน 10 นาที! เพียงแค่เลือกโครงสร้างของเว็บในดีไซน์ที่คุณชอบ กรอกประวัติเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ แค่นี้ก็เสร็จสมบูรณ์ ผลลัพธ์ที่ได้คือ "ที่อยู่เว็บ (URL)" ที่เป็น "ชื่อของคุณเอง" สำหรับ "ลิงก์" ไปยังหน้าประวัติส่วนตัวออนไลน์ได้ทันที

ดูวิดีโอสาธิตการสร้างสร้างประวัติส่วนตัวออนไลน์ ด้วย Gigtide

http://www.youtube.com/watch?v=XHbtDXjXyDs

 สำหรับใครที่ปวารณาตัวเองว่าเป็น "คนโลว์เทค" ก็ไม่ต้องกลัวว่าการทำประวัติส่วนตัวออนไลน์จะเป็นเรื่องยาก
 เพราะคุณไม่จำเป็นต้องรู้วิธีการสร้างหรือการออกแบบเว็บใดๆ เลย เพียงแค่คลิกเลือกภาพ พิมพ์ข้อความ ก็สามารถมีเว็บไซต์
 ที่ทำหน้าที่เป็น  "เรซูเม่ออนไลน์" ได้แล้ว

 Gigtide ใช้งานง่ายผ่าน 5 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

       1. เข้าไปที่ www.gigtide.com คลิกเมนู "LAUNCH GIGTIDE"
       
       2. เลือกรูปแบบหน้าตาเว็บที่เราต้องการ (ถ้าภาพไหนที่มีเครื่องหมายแม่กุญแจ หมายถึงเลือกไม่ได้ถ้าไม่ได้สมัครสมาชิกแบบจ่ายเงิน) > กดปุ่มด้านล่าง "Continue to next step"
       
       3. กรอกข้อมูลส่วนตัว ย้ำว่าช่องแรกส่วนของ Resume Name ให้ใช้เป็นชื่อจริงของคุณ (ที่เป็นภาษาอังกฤษ) เพราะมันจะกลายเป็นชื่อลิงก์เพื่อยังไปยังประวัติออนไลน์ของคุณด้วย (ตัวอย่างลิงก์ที่จะได้ http://www.gigtide.com/wanpen/wanpen)
       
       4. เริ่มลงมือกรอกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวคุณลงไป ซึ่งจะมีตั้งแต่ วัตถุประสงค์ (Objectives) คุณสมบัติส่วนตัวโดยสรุป (Summary of Qualifications) ทักษะและความสำเร็จ (Skills and Achivements) และอื่นๆ ซึ่งส่วนนี้หากคุณกรอกเป็นภาษาไทย ก็สามารถพิมพ์หัวข้ออื่นๆ ตามใจปรารถนาได้ หรือไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษก็จะสามารถปรับแก้หัวข้อได้เช่นกัน
 
           อย่างไรก็ดี ระหว่างที่พิมพ์ข้อความ ทางด้านล่างจะมีเครื่องมือแต่งตัวอักษร ตัวหนา ตัวเอง และลิงก์ นอกจากนี้ทางแถบด้านบนของช่องข้อความ คุณจะเห็นที่ระบุว่าเป็น Writing Tips and action verbs มีไว้สำหรับเป็นไกด์ในการเขียนแต่ละหัวข้อให้คุณ และอย่าลืมใช้เครื่องมือตรวจการสะกดคำหากพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ โดยคลิกคำว่า "Check Spelling"

        5. เมื่อกรอกทุกหัวข้อแล้ว คุณจะเห็นว่าแถบเครื่องมือด้านขวามือสุด (Resume Process) จะมีการติ๊กเครื่องหมายถูกเอาไว้ เมื่อกรอกข้อความทุกอย่างจนพอใจแล้ว คลิกที่ปุ่มสีเขียวด้านบนของช่องกรอกข้อความที่เขียนว่า "Save Resume and Regist with gigtide" จากนั้นก็ใส่ข้อความต่างๆ เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน เพื่อสำหรับการลงทะเบียนและการเข้าสู่ระบบครั้งต่อไป

        คุณสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีของคุณได้ที่แถบ "Dashboard" จะมีการแสดงตัวอย่างหน้าประวัติของคุณ จำนวนคนที่คลิกเข้ามาชม
แก้ไขประวัติส่วนตัวได้เพียงกด "Edit" และคัดลอกที่อยู่ของประวัติส่วนตัวออนไลน์ได้โดยคลิกที่แถบ "My Account" > ด้านขวามือจะเห็น "Resume URL: http://www.gigtide.com/wanpen/wanpen" คัดลอกลิงก์นี้เก็บไว้ หรือบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อส่งต่อให้คนอื่นดูได้อย่างรวดเร็ว

        ของฟรีมีฟีเจอร์น้อยไป ถ้าจ่ายเงินไปจะได้อะไรกลับมา?

คุณจะเห็นว่าถ้าคุณสมัครสมาชิกแบบฟรีกับ Gigtide คุณจะได้ "เรซูเม่ออนไลน์" ที่หน้าตาธรรมดา และไม่มีรูปภาพของคุณติดอยู่ นั่นก็เพราะผู้ให้บริการต้องการให้คุณ "ยกระดับสมาชิก (Upgrade)" ให้เป็นแบบเสียเงินนั่นเอง สนนราคา 20 เหรียญสหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 660 บาท) หรือ 99 เหรียญต่อปี (ประมาณ 3,300 บาท) และสิ่งที่จะได้ก็คือ ทุกๆ อย่างที่แบบฟรีทำไม่ได้ อาทิ

* ดีไซน์ของประวัติส่วนตัวที่สวยงามขึ้น

* ใส่ลูกเล่นที่มีสีสันให้กับประวัติเราได้มากขึ้น เช่น ใส่รูป วิดีโอ ใส่ลิงก์เพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บเครือข่างทางสังคมที่เรามีตัวตนออนไลน์อยู่ได้ เช่น เฟสบุ๊ก (Facebook) ทวิตเตอร์ (Twitter) ลิงค์อิน (LinkedIN) หรือติดต่อเราทางช่องทางออนไลน์อื่นๆ เช่น ทางโปรแกรมโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตอย่าง สไกป์ (Skype), เอ็มเอสเอ็น (MSN Messenger) เป็นต้น

* มีช่องกรอกข้อความติดต่อกับเราได้ผ่านหน้าเว็บประวัตินั้นเลย

* อีกทั้งยังสามารถติดตามการเปิดชมประวัติผ่านโปรแกรมวิเคราะห์ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บของกูเกิล (Google Analytics) ได้ และทำให้ประวัติของเราถูกค้นหาผ่านเว็บค้นหาอย่างกูเกิลได้ง่ายขึ้น

   ข้อดี

* แก้ไขหัวข้อประวัติที่เราจะเขียนเองได้ เหมาะกับประวัติของคนในสายงานที่ต่างกัน

* รองรับการเขียน และแสดงผลภาษาไทย 95% (เพราะส่วน Contact me, PDF ที่หน้าประวัติเรายังเป็นภาษาอังกฤษอยู่ แก้ไขไม่ได้)

* มีระบบเช็คคำผิด และ ตัวอย่างการเขียน (เฉพาะภาษาอังกฤษ)

* หากผู้จ้างสนใจจะเก็บประวัติของเราไว้ ก็สามารถคลิกได้จากปุ่ม PDF ที่หน้าประวัติเรามันก็จะแปลงหน้าเว็บให้เป็นไฟล์นามสกุล PDF ได้อัตโนมัติ (แต่ถ้าหากเขียนประวัติเป็นภาษาไทยพอเปิดเป็นไฟล์ PDF จะอ่านไม่ออก)

   ข้อเสีย

* สมาชิกแบบฟรีมีข้อจำกัดมากไปนิด อย่างน้อยน่าจะอนุญาตให้ใส่รูปได้

* หากอินเทอร์เน็ตช้ากว่า 1 เมกกะบิต อาจจะทำให้การใช้งานติดขัดได้


    เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับ Gigtide

สำหรับที่มาของชื่อบริการ "Gigtide" มาจากคำ 2 คำผสมกัน คำว่า Gig ไม่ได้หมายถึงบุคคลที่เป็นมากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน อย่างที่คนไทยเข้าใจกัน แต่ Gig เป็นคำภาษาอังกฤษที่หมายถึง "งาน" ส่วน Tide หมายถึงกระแสน้ำ แปลตรงตัวก็จะได้ความหมายที่เป็นมงคล คือ งานไหลมาเทมา เหมือนชื่อบทความนี้นั่นเอง

Gigtide เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และบริษัทนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนใดๆ แตกต่างจากบริษัททำเว็บไซต์ประเภทอื่นๆ เนื่องจากบริการของตนเองสามารถหารายได้เองได้

     สรุป

สำหรับใครที่ต้องการเน้นเพียงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวล้วนๆ ที่อยู่ภายใต้เว็บที่ดีไซน์คลาสสิก การเลือกใช้แบบฟรีก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ประหยัด และดูเป็นมืออาชีพได้ระดับหนึ่ง อีกทั้งหากผู้จ้างท่านใดสนใจอยากร่วมงานกับเรา ก็เพียงกดปุ่ม contact me ที่หน้าประวัติก็ส่งอี-เมลหาเราได้ทันที

แต่ถ้าหากต้องการความสามารถที่หรูหรามากขึ้น ทำประวัติส่วนตัวให้มีลูกเล่นมัลติมีเดียแพรวพราว ก็อาจจะต้องยอมเสียเงิน ซึ่งสามารถจ่ายง่ายผ่านบัตรเครดิตได้

ลองเริ่มต้นหาโอกาสใหม่ๆ ให้คุณเอง กับการสร้างเรซูเม่ออนไลน์ด้วย Gigtide ใครจะรู้ว่าเวลาแค่ 10 นาทีในการกรอกประวัติ จะนำเงินหมื่นมาให้คุณ แถมยังเป็นงานที่คุณถนัดอีกด้วย!

หมายเหตุ

หากคุณเห็นว่าชื่อที่อยู่ของหน้าประวัติออนไลน์คุณที่ได้นั้นยาวเกินไป เช่น http://www.gigtide.com/wanpen/wanpen สามารถทำให้ลิงก์นี้สั้นลงได้ด้วยบริการของ TinyURL (ที่เคยพรีวิวลงใน Cyberbiz ก่อนหน้านี้) และอย่าลืมตั้งชื่อตรงส่วนของ Custom alias (optional) ให้เป็นชื่อคุณเองด้วย ก็จะได้เป็นที่อยู่สั้น พร้อมชื่อของคุณเอง เช่น www.tinyurl.com/wanpen เป็นต้น

	เลือกรูปแบบดีไซน์ของหน้าเวบ ประวัติที่เรากรอก
	กรอกรายละเอียดส่วนตัว ที่จะไปปรากฏที่หน้าประวัติของเรา
	เริ่มลงมือกรอกประวัติส่วนตัว ภายใต้หัวข้อต่าง ๆ ที่ตรงกับเนื้องานของเราเอง ( รองรับการพิมพ์ภาษาไทยได้อย่างสมบูรณ์ )
	ดูรายละเอียดชื่อลิ้งค์ของหน้าประวัติเราได้จากเมนู Dashboad > My Account
	ตัวอย่างของประวัติส่วนตัวออนไลน์ที่ทำเสร็จแล้ว เป็นภาษาไทย มีปุ่มคลิกส่ง อี-เมล์ มาหาเราได้ทันทีด้วย