ข้อแนะนำสำหรับบัณฑิต หรือ บุคคลทั่ว ๆ ไป ที่คิดจะเลือกซื้อสูทเป็นตัวแรก
เสื้อสูทเป็นเครื่องแต่งกายที่มีความสำคัญกับผู้ชายวัยทำงาน ที่ควรจะมีไว้สำหรับสวมใส่ในงานพิธีการต่าง ๆ อย่างน้อยสัก 1 ตัว
ไม่ว่าเราจะเลือกซื้อชุดสูทที่ราคาแพงที่ตัดจากเนื้อผ้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ หรือ เลือกซื้อชุดสูทสำเร็จรูป
ที่มีราคาเหมาะสมกับภาวะเศรฐกิจของเรา ในเวลานี้ สิ่งที่ต้องสังเกตในเบื้องต้น เช่นต้องดูตะเข็บ ดูวิธีการเย็บ เพราะสูทที่มีการตัดเย็บดีๆ
นั้นจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานชุดสูทได้นานกว่า และใช้ได้ในหลาย ๆ โอกาสที่เหมาะสมกับเงินที่เราต้องจ่ายไป
วิธีการเลือกสูทดีๆสักตัวมีเรื่องที่ควรให้ความสนใจ 3 ส่วน
1. เนื้อผ้าที่เราเลือกใช้
เนื้อผ้าที่นิยมใช้ในการนำมาตัดชุดสูท ส่วนใหญ่แล้วเราแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ผ้าขนสัตว์ และ ผ้าที่ไม่ใช่ขนสัตว์
สำหรับในเมืองไทย แล้ว การนำผ้าขนสัตว์มาตัดชุดสูทหรือคนที่จะซื้อสูทใช้ตัวแรกสำหรับงานทั่วๆไปเราคงไม่แนะนำสาเหตุเพราะผ้าขนสัตว ส่วนใหญ่นั้นมีน้ำหนักมาก ถ้าเราเป็นคนที่โครงสร้างตัวใหญ่ หรือ อ้วนมีพุงพอเลือกใส่ชุดสูทแบบนี้แล้วจะรู้สึกบวม ๆ เพระผ้าหนาที่สำคัญราคา
ก็แพงกว่าด้วย
เนื้อผ้าที่ไม่ใช่ขนสัตว์ เช่นผ้าฝ้าย ผ้ากำเบอดีน ผ้าลินิน ผ้าอื่น ๆ ที่ทางร้านแนะนำ ผ้าวาทู ผ้าลีวายส์ ฯลฯ เป็นผ้าที่เหมาะสมกับภาวะเมืองร้อนอย่างประเทศไทย เพราะมีน้ำหนักเบาดูแลง่าย และราคาเหมาะสม
ราคาและคุณภาพของผ้า
ราคาและคุณภาพของผ้าขึ้นอยู่กับ 1 วัตถุดิบที่เอามาทำผ้า 2 ลักษณะการทอของผ้า
1 วัตถุดิบที่เอามาทำผ้า อันนี้ก็แน่นอนค่ะ ถ้าขนของสัตว์นั้นหายากมันก็ย่อมแพง เช่น lamb wool กับ cashmere wool
ราคามันก็ต้องแตกต่างกันแน่ละ
2 ลักษณะการทอผ้า ยิ่งทอละเอียดมากเท่าไหร่ ผ้าก็จะยิ่งทนและราคาแพงขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ผ้าที่ทอ 60-80 twists ก็ย่อมถูกกว่าและไม่เนียนเท่าผ้าที่ทอด้วย 120 twists ผ้าสูทปกติควรจะเป็นการทอตั้งแต่ 100 twists ขึ้นไปค่ะ
2. ตัวเสื้อสูท หรือ แบบที่เราต้องการ
คนที่เพิ่งคิดจะซื้อสูทเป็นตัวแรกมีข้อควรจำดังนี้ สูทของท่านควรเป็น
• single-brasted หรือกระดุมแถวเดียว เพราะกระดุมสองแถว หรือสูทที่มีเสื้อกั๊กข้างในน่ะ มันดูทางการและสูงวัยไปสักนิด
• สีน้ำเงินเข้มเกือบดำ หรือสีน้ำเงิน
• ไม่มีลาย
• กระดุม 2 - 3 เม็ด คือกะให้กลางๆค่ะ ไม่ใช่ 4-5 เม็ด ถ้าคุณไม่สูงสักเกือบสองเมตรน่ะ กระดุมหลายเม็ดจะทำให้คุณดูเตี้ย
ตัวเสื้อสูท
การตัดเสื้อสูทให้ดูให้ดีนะคะ ตัดแบบอเมริกันก็จะเข้ากับรูปร่างคนอเมริกันคือค่อนข้างตัวตรงๆเพราะว่าเผื่อไว้สำหรับอ้วนได้นิดหน่อย ส่วนตัดแบบยุโรปจะมีการเข้ารูปมากกว่า ดังนั้นรูปทรงโดยรวมจะสวยกว่า แต่ถ้าจะให้ดี เอาสูทแบบที่ต้องไปที่ร้าน ให้ลองแล้วก็จัดการปรับให้เข้ากับรูปทรงเราน่ะดีสุด
เวลาเราถามว่า จะเอาสูทแบบไหน สิ่งที่คนจะคิดถึงเป็นสิ่งแรกก็คือจะเป็น single หรือ double ลองมาดูความแตกต่างกันด้วยภาพเลยค่ะ น่าจะเข้าใจได้เลย
แบบ double-brasted suit และแบบ 3 ชิ้น มักจะใช้ในหน้าหนาว หรืองานที่ทางการๆหน่อยค่ะ ข้อควรคิดเล็กน้อยสำหรับคนอยู่เมืองหนาวก็คือว่าเสื้อโคทหน้าหนาว ควรเป็น double brasted นะคะ เพราะว่ามันจะได้กันลมได้ด้วย แต่สำหรับเมืองไทยคงร้อนตายน่ะ ถ้าใส่เป็น double-brasted
สิ่งที่ควรระวังในการเลือกสูท
เอาล่ะ พล่ามมาพอควรแล้ว ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีส่วนไหนของสูทที่เราต้องสังเกตกันบ้าง
ส่วนแรก คอปก (collar) : คอปกควรจะแนบไปกับเสื้อเชิ้ต โดยที่ไม่รั้งดึงเสื้อเชิ้ต เวลาที่ใส่แล้วควรอยู่ต่ำกว่าขอบของเสื้อเชิ้ตประมาณ 1 นิ้ว
ส่วนที่ 2 ปกเสื้อ (lapels)
ส่วนที่ 3 front cut
ส่วนที่ 4 แขนเสื้อ
ส่วนที่ 5 ไหล่
เวลามีงานเลี้ยงหรืองานอะไรก็ตามที่ต้องการความสุภาพเรียบร้อยผู้ชายก็มักจะใส่สูท แต่การเลือกสูทนั้นเป็นปัญหาใหญ่ของคุณผู้ชายทั้งหลายเพราะสูทนั้นมีหลายแบบ ซึ่งเราจะพาไปรู้จักกับชุดสูทในแบบต่างๆ กัน เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อชุดสูท
การเลือกสูทนั้นต้องสังเกตจุดเด่นอยู่ 3 อย่าง ได้แก่ คอปก กระเป๋า และลักษณะการผ่าคอปกที่จะบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้สวมใส่ ซึ่งควรมีความกว้างน้อยกว่าระยะกึ่งกลางระหว่างคอเสื้อและส่วนไหล่ คือประมาณ 3.5 นิ้ว ส่วนกระเป๋าให้ดูที่ฝาปิดกระเป๋า ซึ่งควรมีขนาดความหนาที่ได้สัดส่วนกับคอปกเสื้อ ไม่ใหญ่หรือไม่เล็กจนเกินไป : เสื้อสูทที่ดี ที่เสริมไหล่จะต้องไม่ใหญ่มากเกินไป ดูไม่เป็นธรรมชาติ : ปลายแขนเสื้อ ควรอยู่ตรงข้อต่อของมือกับแขนค่ะ พอดีๆขณะที่ทิ้งมือลงนะคะ พอขยับแขนมันจะร่นขึ้นไปหน่อยทำให้กำลังพอดี : การตัดด้านหน้ามีหลายแบบที่นิยมกัน แบบที่เหมาะกับคนที่ซื้อสูทเป็นตัวแรก จะเป็นแบบ small cut และ normal cut ถ้าคุณหุ่นดีๆหน่อย ซื้อแบบ normal cut ก็จะกำลังดี แต่ถ้ามีพุงเล็กน้อยพยายามเลือกแบบที่มีรอยผ่าน้อยๆก็จะอำพรางพุงไปได้ค่ะ : คือส่วนที่ต่อมาจากคอปก lapel ไม่ว่าจะเป็นแบบ notch หรือ peak ก็แล้วแต่ แต่ตามความเห็นของรำเพยคือแบบ notch น่ะ จะธรรมดาๆหน่อย เหมาะกับคนที่เพิ่งซื้อสูท ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะปกแบบไหน เวลาใส่แล้วจะต้องแนบไปกับเสื้อ แต่ว่าไม่ใช่รีดให้แนบไปนะคะ ปกของสูทที่ตัดดีๆจะต้องม้วนไม่ใช่พับแบบแต๊ดไปตั้งแต่แรก แต่จะต้องม้วนแล้วค่อยๆราบลงไป ลองดูในรูปค่ะ
สูทแซ็ก
เป็นสูทที่ไม่มีรูปแบบเด่นชัด ไหล่จะแคบและจะมีผ่าตรงกระเป๋า ตัวเสื้อด้านหลังผ่ากลาง กระดุมด้านหน้ามีแถวเดียวอาจมีถึง 3 หรือ 4 เม็ด ซึ่งไม่ว่าคนใส่จะมีรูปร่างยังไงก็สามารถสวมสูทแบบนี้ได้ เพราะสูทแบบนี้มีลักษณะหลวมโคร่ง แต่สูทแบบนี้ก็จะทำให้ผู้สวมขาดเอกลักษณ์
สูทกระดุมแถวเดียวสไตล์ยุโรป
สูทแบบนี้จะใช้ลายเส้นเพื่อเน้นรูปร่างผู้สวมใส่ โดยจะมีไหล่เสื้อยกเป็นรูปสี่เหลี่ยมและโคนแขนเสื้ออยู่ระดับสูง ตัวเสื้อจะรัดให้เห็นรูปร่างบริเวณหน้าอกและสะโพก ด้านหน้าจะติดกระดุมแถวเดียว 2 เม็ด ด้านหลังของสูทจะไม่มีผ่า สูทแบบนี้เหมาะกับกางเกงค่อนข้างรัดรูป ซึ่งสูทแบบนี้จะเน้นความเป็นชายมากกว่าสูทแซ็ก และดูเป็นทางการ ทั้งยังทำให้ผู้ใส่ดูผอมกว่าความเป็นจริง
สูทกระดุมแถวเดียวสไตล์อเมริกัน
สูทแบบนี้มีรากฐานมาจากคนอเมริกันเพราะคนอเมริกันชอบแต่งกายแบบสบายๆ และคนอเมริกันมีไหล่กว้าง อกผึ่ง และดูหนาทั้งตัว จึงต้องสวมสูทที่ช่วยให้ความหนาลดลงแต่ยังคงสบายขณะใส่และขณะเคลื่อนตัว ซึ่งสูทสไตล์อเมริกันนั้นจะเป็นการผสมผสานระหว่างสูทแซ็กและสูทสไตล์ยุโรป คือจะรัดรูปบริเวณเอวทำให้ตัวเสื้อเหมือนรูปตัววี กระดุมใช้แถวเดียวมี 2 เม็ด คอปกจะยาว โดยสูทแบบนี้ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับรูปร่างจึงเหมาะกับคนที่มีรูปร่างสมส่วน
สูทกระดุม 2 แถว
ปัจจุบันสูทกระดุม 2 แถว เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายเพราะเป็นแฟชั่นอีกรูปแบบหนึ่ง ผู้ที่สวมใส่จึงดูเป็นคนมีรสนิยมในการแต่งตัวให้ทันสมัย และเวลาใส่สูทกระดุม 2 แถว ควรกลัดกระดุมล่างหรือกระดุมกลางเม็ดเดียว อย่ากลัดทั้ง 2 เม็ดพร้อมกัน โดยการกลัดกระดุมเม็ดล่างจะทำให้ผู้ใส่ดูลำตัวยาวขึ้นจึงเหมาะกับคนตัวเตี้ย ส่วนการกลัดกระดุมเม็ดกลางจะทำให้ดูเหมือนลำตัวถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนล่างและส่วนบน ซึ่งจะเป็นการลดความสูงของผู้ใส่ โดยรวมแล้วสูทกระดุม 2 แถว เหมาะกับบุคคลทุกรูปร่าง ยกเว้นคนที่มีสะโพกใหญ่เกินไปเท่านั้น
สูทสปอร์ต
สูทสปอร์ตนั้นสามารถสวมใส่ได้หลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการใส่เข้าสังคมหรือใส่เพื่อลดความเครียดในการเจรจาธุรกิจ หรือเราสามารถเห็นได้จากในรายการโทรทัศน์ที่ดาราหลายคนนิยมสวมใส่
เมื่อได้รู้จักสูทแบบต่างๆ กันไปแล้วก็คงจะช่วยให้คุณผู้ชายสามารถเลือกใช้สูทที่เหมาะกับตัวเองและเหมาะกับงานแต่ละงานได้ง่ายดายมากขึ้น
3. กางเกง
กางเกงสูท เลือกผิดคิดจนตัวอ้วน อ๊ะยังไง ก็กางเกงสูทน่ะ ถ้าเลือกไม่เป็นก็ทำให้ดูตัวเตี้ย หรือตัวอ้วนกลมได้โดยง่ายค่ะ แต่วิธีเลือกกางเกงนี่ไม่ยากเท่ากับการเลิอกเสื้อ ดังนั้นมาลองดูกันเลยนะคะ
กางเกง เลือกให้ดีต้องดูที่อะไรบ้าง
การเลือกกางเกงที่เอามาใส่กับสูทนั้นไม่ใช่เรื่องซับซ้อนมากนัก มีสิ่งที่ต้องใส่ใจอยู่ 3 ส่วน
• เอว
• จีบ
• ปลายขากางเกง
ส่วนแรก เอว Waist : ตอนที่ไปลองกางเกงให้ลองเอานิ้วแหย่ลงไปที่ขอบเอว ให้ใส่นิ้วลงไปได้สองนิ้วนะคะ เพราะว่าเวลาที่คุณใส่จะได้พอดีๆไม่หลวมไม่คับจนเกินไป กางเกงคับพอดีเกินไปพอใส่จริงๆจะรั้งง่าย และพอกินอะไรเข้าไปก็คับเกินไปค่ะ
ส่วนที่ 2 จีบ pleats
ส่วนที่ 3 ปลายขากางเกง cuff
: มีสามแบบคือ ตรงๆ, แบบที่ขาด้านหลังยาวกว่านิดหน่อย คร่อมรองเท้า และ แบบที่พับชายขาขึ้นมา ขอย้ำว่ากางเกงที่พับปลายขาถึงแม้ว่าจะทำให้กางเกงได้รูปสวยเวลาใส่ แต่ว่ามันจะทำให้ขาดูสั้นลง (เพราะมีรอยขวางมาตัดให้เห็นว่าขาสุดตรงไหน) ถ้าเป็นแบบไม่มีการพับออกมาด้านนอกให้เห็นเลย ลายเส้นของกางเกงจะทิ้งลงไปตรงๆไม่มีอะไรมาสะดุด ทำให้เห็นว่าขาเรายาวได้ค่ะ แปลง่ายๆก็ถ้าเตี้ยก็อย่าริใส่กางเกงพับขา มันยิ่งทำให้เตี้ยหนักเข้าไปอีก : pleats ของกางเกงมี 2 แบบคือ reverse (out) กับ forward (in) reverse ก็คือจีบออกไปจากเป้ากางเกง ส่วน forward คือจีบเข้าหากางเกง แบบที่ปกติก็คือ แบบ reverse pletes แต่ในปัจจุบันมีอีกแบบนึงที่นิยมกันก็คือแบบไม่มีจีบเลย ตามความเห็นของเราคือถ้าคุณผอมหรือหุ่นดีๆเนี่ย ใส่แบบ flat front หรือ reverse pleats ก็สวยดี ต้องไม่ลืมนะคะว่าถ้ากางเกงมีจีบจะทำให้ดูอ้วนขึ้นนิดหน่อยค่ะ